
การมาที่นี่ หลวงพ่อปราโมทย์ได้ให้หลักการปฏิบัติที่ซื่อๆ ง่ายๆ แต่ต้องหมั่นทำ รู้สึกว่าได้พบวิธีปฏิบัติที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องหาเวลาปฏิบัติ แต่ก็ต้องไปฟังเทปเพิ่ม และปฏิบัติไปเรื่อยๆหลวงพ่อสอนเยอะแยะ ที่โดนใจมากๆคือ “เกิดมาชาติหนึ่งทำไมต้องมีความทุกข์ เรามีโอกาสศึกษาธรรม ต้องรู้ว่าอะไรมีสาระ ไม่มีสาระ อยู่ยังไงให้ทุกข์น้อยลง อยู่อย่างไรให้มีความสุข สิ่งที่มีสาระจริงๆ ไม่ใช่อยู่ตามโลกไปวันๆ คือการพัฒนาจิตวิญญาณของเรา การปฏิบัติธรรม ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ”
วันสุดท้ายที่ไปนั่งฟังหลวงพ่อเป็นวันที่ส่งการบ้าน หลวงพ่อสอนว่า อย่าวาดภาพการปฏิบัติว่าต้องทำอะไรที่ยากๆ การปฏิบัติไม่ต้องทำอะไรมากกว่าการรู้ รู้กายอย่างที่กายเป็น รู้ใจอย่างที่ใจเป็น ใจมัวก็ให้รู้ว่ามัว อยากให้ใจใสก็ให้รู้ว่าอยาก ง่ายสุดๆ เต็มไปด้วยเหตุด้วยผลเหมือนเดินไปชนกำแพงก็รู้ว่าหัวโน แค่นี้เอง
ครูบาอาจารย์บอกว่าจะเรียนรู้อะไรสักอย่าง ต้องเอาตัวลงไปปฏิบัติ เป็นอย่างนี้นี่เอง..เราต้องรู้จักตัวเองว่าเราเป็นคนอย่างไร เลือกปฏิบัติให้ตรงตามจริต ให้สบายใจ ปฏิบัติแล้วดี สบายๆ แจ่มใส…วันนี้ได้มาถึงคำว่า “เรียนรู้” คือเรียนจากการปฏิบัติ ไม่ใช่เรียนความรู้ เรียนด้วยการเอาตัวลงไปทำจริงแล้วมาดูใจว่าเป็นอย่างไร ใคร่ครวญ สังเกตภายในตัวเองแล้วสะท้อนออกมา..เราหวังว่าจะมาถูกทางถูกจริต สามารถฝึกแนวดูจิตและเดินบนเส้นทางสายนี้ต่อไป…
ใครที่สนใจแนวดูจิต ศึกษาข้อมูลเพิ่มได้ที่ http://www.wimutti.net/pramote/
หรือ http://wiz.wimutti.net/
หรือ บ้านอารีย์: http://www.baanaree.net/media/index.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น