วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

เรียนรู้ชีวิต เพื่อพัฒนาด้านใน

ตลอดเวลา 4 เดือนที่มาเรียนจิตตปัญญาศึกษา มีหลายๆคน ทั้งคนข้างตัว ลูก ญาติมิตร เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และคนรู้จัก ถามอยู่เสมอว่าเรียนอะไร? เพื่ออะไร? จะได้อะไร? เอาไปทำอะไร? ใช่สิ่งที่ชอบ อยากทำหรือเปล่า? คำถามจากคนที่ห่วง หวังดี กลัวว่าเราจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้ต้องกลับมาสำรวจดูตัวเองว่า ได้อะไรบ้าง?

เริ่มจากการจัดการในเรื่องการเรียนการสอน เห็นเขาทำ 3 เรื่องใหญ่ๆ
1 จัดการสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมสำหรับการเรียนการสอน สร้างหลักสูตรโดยแต่ละวิชาพยายามเสริมซึ่งกันและกัน สร้างมาตรฐานในการคัดเลือกกลุ่มผู้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน จัดสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ รวมทั้ง infrastructure ต่างๆอย่างพร้อมพรั่ง และเปิดพื้นที่เรียนรู้ที่ทำให้พวกเรารู้สึกปลอดภัย

2.สร้างชุมชนเรียนรู้ โดยการให้เกิดการตระหนักรู้ เกิดความไว้วางใจ เกิดสายสัมพันธ์ มิตรภาพระหว่างอาจารย์และกลุ่มผู้เรียน..ที่นี่ เคารพในศักยภาพของผู้เรียน พยายามให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

3. ที่นี่อาจารย์ทำหน้าที่ facilitator, coach, counselor, helper อจารย์ต้องใช้ทักษะการฟัง ถาม สื่อสาร ท้าทายให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทักษะของอาจารย์คล้าย coach นะ คือต้องวางแผน ตั้งเป้าหมาย สนับสนุนให้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ พัฒนา และเติบโตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ

เวลาเรียนรู้เราเรียนกันแบบเปลือยใจ เปลือยตัวตน รู้สึกว่า "ปอกหัวหอม" ลอกออกทีละชั้นๆ บริบทต่างๆที่พวกเรา ผู้เอาตัวตนมาเรียนรู้ได้ทำ ได้ฝึกฝน คือการฟัง dialogue อ่าน ใคร่ครวญ ค้นคว้า วิจัย หาองค์ความรู้ ปฏิบัติ มีโครงงานที่ท้าทายให้เราทำทั้งงานเดี่ยว งานคู่ งานกลุ่ม มีปัญหามาให้ฝึก มี reflection ซึ่งพวกเราใช้ทั้งพูด เขียน journal เขียนใน mail group เขียน blog ตามถนัด

ตอนนี้ ถ้าจะถามคำถามว่า..
เราได้เรียนองค์ความรู้อะไรบ้าง?..เยอะ
สิ่งที่ได้รับตรงกับเป้าหมายในใจหรือไม่ อย่างไร?
เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้าง? เรารู้สึกอย่างไร?
การเรียนสะท้อนความเป็นตัวเราในชีวิตจริงอย่างไร?

ทั้งหมดนี้ยากที่จะเขียนออกมาในเวลานี้ เราต้องเดินทางไกล ฝึกฝนอีกนาน...

4 เดือนที่ผ่านมา เราเดินบนเส้นทางสายนี้โดยเลือกกระโจนลงน้ำ ปล่อยตัวเองไปตามกระแส เผชิญความรู้สึก คลื่นอารมณ์ รู้สึกงงงวย หลงทาง ไม่แน่นอนกับอนาคต ใช่หรือไม่ใช่ แต่ก็เปิดรับ ไม่คาดหวัง เพราะนี่คือการเรียนรู้ด้วยชีวิต..บางทีก็รู้สึกยากที่จะยอมรับ เหนื่อยที่จะเผชิญ..แต่ก็พูดได้ว่า เรารู้จักตัวเองทั้งด้านที่ดีและไม่ดีมากขึ้น ได้ปรับโลกทัศน์ที่มีต่อตนเอง ผู้อื่น เปิดมุมมองมิติใหม่ และการปฏิบัติภาวนานั้น ก็ทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน รู้สึกถึงชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมดา..

เราว่า..เรียนที่นี่แล้ว หลักๆ เราได้เรียนรู้ชีวิต รู้จักตัวตนของเรา รู้จักอดีต ยอมรับตัวตนของเรามากขึ้น เปิดกว้าง เราฝึกอยู่กับปัจจุบัน..เรารู้สึกถึงอิสรภาพ..ได้พัฒนาด้านใน และ..พร้อมที่จะก้าวต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น